ฟันปลอมแบบถอดได้ vs รากฟันเทียม ในปี 2025 จะเลือกแบบไหนดี?

ฟันปลอมแบบถอดได้

ฟันปลอมแบบถอดได้ คืออุปกรณ์ทดแทนฟันที่สามารถถอดเข้า-ออกเพื่อทำความสะอาดได้ ตัวฐานทำจากพลาสติกหรือโลหะ วางอยู่บนสันเหงือกหรือเพดานปาก มีให้เลือกทั้งแบบบางซี่ หรือแบบเต็มปาก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเข้ารับการผ่าตัด หรือไม่ต้องการใช้เวลารักษานาน

ข้อดี ฟันปลอมแบบถอดได้

ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่สูญเสียฟันบางซี่หรือทั้งขากรรไกร โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพ ถอดทำความสะอาดได้ หรือถอดก่อนนอนเพื่อให้เหงือกได้พัก สำคัญคือราคาย่อมเยา

ข้อเสีย ฟันปลอมแบบถอดได้

ช่วงแรกอาจรู้สึกอึดอัดหรือรำคาญ และอาจหลวมหรือขยับได้ขณะพูดหรือเคี้ยว หากใส่ตลอดเวลา อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในช่องปาก มีอายุการใช้งานสั้นกว่ารากฟันเทียม เพราะสันเหงือกและกระดูกขากรรไกรอาจยุบตัวเมื่อไม่มีรากฟัน ต้องเปลี่ยนใหม่ทุก 5–7 ปี และรองรับแรงบดเคี้ยวได้ไม่ดีเท่ารากฟันเทียม

ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการทำฟันปลอมแบบถอดได้

ราคาไม่สูง ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกและจำนวนซี่ฟันที่ต้องทำ ใช้เวลารักษาประมาณ 1–2 สัปดาห์ และต้องพบทันตแพทย์ประมาณ 3–6 ครั้ง ในการทำและปรับแต่งชิ้นงาน

รากฟันเทียม

รากฟันเทียม (Dental Implant) คือการฝังวัสดุที่ทำหน้าที่เสมือนรากฟันลงในกระดูกขากรรไกร แล้วครอบด้วยฟันปลอมด้านบน ใช้งานได้เหมือนฟันธรรมชาติ แข็งแรง ไม่ต้องถอดเข้า-ออก ดูกลมกลืนกับฟันจริง และไม่รบกวนฟันข้างเคียง

ข้อดี รากฟันเทียม

มีความแข็งแรง ใช้งานได้นานเสมือนฟันจริง เพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยวและการออกเสียง ไม่ต้องถอดทำความสะอาด รักษารูปหน้าและโครงกระดูกขากรรไกร ปัจจุบันมีเทคโนโลยีช่วยให้ผ่าตัดแม่นยำและหายไวขึ้น

ข้อจำกัด รากฟันเทียม

ต้องผ่าตัด และต้องมีสุขภาพกระดูกและเหงือกที่ดี หากกระดูกไม่พออาจต้องเสริมก่อน ไม่เหมาะกับผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ผู้มีโรคประจำตัวบางชนิด หรือผู้ที่สูบบุหรี่จัด เพราะเสี่ยงแผลติดเชื้อหลังผ่าตัด

ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการรักษา รากฟันเทียม

ราคาสูงกว่าฟันปลอม ขึ้นอยู่กับวัสดุ เทคโนโลยี และความซับซ้อนของเคส โดยใช้เวลารักษาประมาณ 3–6 เดือน หรือมากกว่า แล้วแต่การยึดติดของกระดูก และต้องติดตามผลอย่างต่อเนื่อง